เรามักพบคำนี้บ่อยมาก สำหรับหนึ่งในโรคร้านที่ผู้หญิงเป็นกันเยอะ โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่มีลูกแล้ว นั่นคือ มะเร็งปากมดลูก ทุกวันนี้แม้ว่าพัฒนาการของการรักษาจะก้าวหน้าไปมากแล้ว แต่ก็ยังรักษาไม่หายขาด ไม่ทราบสาเหตุแท้จริง และการตรวจหาก็ยังทำได้ยาก ดังนั้นวันนี้ เรามารู้จักโรคนี้กันก่อน เพราะนี่เป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใกล้ตัวมากที่สุด เพราะผู้หญิงหลายคนกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ ก็มักสายเกินไป จนกระทั่งอาการหนักแล้วถึงแก่ชีวิต
มะเร็งปากมดลูก คือ เนื้องอกที่บริเวณปากมดลูกที่ประกอบไปด้วยเซลล์ที่มีการแบ่งตัวเร็วสามารถลุกลามทำลายเนื้อเยื่อปกติและอวัยวะใกล้เคียง รวมถึงสามารถลุกลามเข้าเส้นเลือด เส้นน้ำเหลือง ทำให้เกิดการกระจายของโรคไปยังต่อมน้ำเหลือง สุดท้ายก็เข้าสู่อวัยวะต่างๆภายในร่างกายได้
โรคนี้เป็นหนึ่งในประเภทของมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 1 สำหรับผู้หญิงในประเทศไทย เป็นอันดับ 3 ของมะเร็งในผู้หญิงทั่วโลก อัตราช่วงอายุจะพบมากในอายุ 35 – 60 ปี (เรียกว่าครอบคลุมเกือบหมด)
- สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ก่อโรค
- มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งเกินไป โดยไม่ได้ดูแลให้ดีพอ หรือมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย ซึ่งช่วงนี้เซลล์ปากมดลูกยังพัฒนาไม่เต็มที่ยังไวต่อสารก่อมะเร็งสูงมาก
- มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะ หนองใน เริม ซิฟิลิส เป็นต้น
- สูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ ใช้สารเสพติดเป็นประจำ
- ตั้งครรภ์และมีบุตรมากกว่า 4 ครั้งขึ้นไป อัตราเสี่ยงจะสูงไปด้วย
- รับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
- ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น การติดเชื้อเอดส์ การใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
- ใช้ยาฮอร์โมน Diethylstillbestrol (DES) กับมารดาในระหว่างการตั้งครรภ์
- ติดเชื้อไวรัสบางประเภท
- เกิดการฉีกขาดหรือกระทบกระเทือนบริเวณปากมดลูก
- เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ เสี่ยงต่อการอักเสบจากการรับอวัยวะเพศชาย
- ฝ่ายชายหรือสามีไม่ได้ขลิบหนังหุ้มที่ปลายอวัยวะเพศ มีโอกาสสุ่มเสี่ยงสูง เพราะฝ่ายชายอาจไม่ได้ทำความสะอาดให้ดีพอ (แต่ถ้าไม่ได้ขลิบหนังหุ้ม แล้วเปิดล้างเองบ่อยๆ ก็ถือว่าใช้ได้)
ลักษณะอาการ
- เริ่มแรกมักไม่ปรากฏอาการ แต่ให้สังเกตว่า มีเลือดออกหลังหมดประจำเดือนบ่อยๆหรือไม่
- ประจำเดือนไม่ปกติ ออกกะปริบกะปรอย หรือออกมาก บ้างก็มาไม่สม่ำเสมอ
- มีตกขาวออกมากผิดปกติ หรือมีกลิ่น ตกขาวมีลักษณะคล้ายน้ำคาวปลา
- เลือดออกขณะหรือหลังการร่วมเพศบ่อยๆ และเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน
- มักปวดท้องน้อย หรือปวดบริเวณก้นกบร้าวลงขา
- มีอาการถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายลำบาก
ถ้ามีอาการดังกล่าว แนะนำให้รีบไปตรวจหามะเร็งปากมดลูกทันที การตรวจควรทำในช่วงหลังประจำเดือนวันแรก 10-20 วัน ในระยะ 2 วันก่อนไปตรวจ ควรงดการสวนล้างช่องคลอด หรือเหน็บยาหรือใส่สารใดๆเข้าไป เพื่อให้ตรวจหาอาการที่แน่ชัดได้ หากพบเร็ว ก็มีโอกาสรักษาได้ทัน